วันพุธที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2553

ขนบธรรมเนียมประเพณีทหารเรือ(ประวัติความเป็นมา)

ประวัติความเป็นมาของธรรมเนียมประเพณีทหารเรือ
....ขนบธรรมเนียมประเพณีของทหารเรือนั้น หมายถึง ประเพณีนิติกรรมและพิธีต่าง ๆ ที่ได้รับช่วงปฏิบัติติดต่อกันมาแต่ครั้งโบราณเป็นลำดับ.......
๑. ประเพณี คำว่าประเพณีมีผู้กล่าวไว้หลายอย่างต่าง ๆ กัน เช่น
- วูลเสย กล่าวว่า "ประเพณ๊ของเเต่ละประเทศได้มีมาก่อนบทบัญญัติและการปฏิบัติสิ่งหนึ่งสิ่งใดโดยเคร่งครัดบ่อยครั้งเข้า ก็ทำให้บังเกิดความเคยชินเป้นประเพณีขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวและเป็นสิ่งควบคุมความประพฤติของประชาชาติ"
- อีเมอรสัน กล่าวว่า "เราทั้งหมดมีชีวิตอยู่ตามประเพณี"
- เบคอน กล่าวว่า "โดยที่ประเพณีเป็นสิ่งสำคัญสำหรับชีวิตมนุษย์ ขอให้ทุกคนนำเอาประเพณีที่ดีมาใช้"
***** สรุปแล้ว ประเพณี คือความเคยชินในการกระทำจนก่อให้เกิดเป็นแบบอย่างหรือวิธีการขึ้น
*****

๒. นิติกรรม คือ ความนิยมหรือลัทธิ ซึ่งได้มอบให้แก่กันต่อเนื่องมาเเต่ครั้งบรรพบุรุษด้วยการสืบต่อทางวาจาหรือทางปฏิบัติ


๓. พิธี คือ แบบแผนในการกระทำ เดิมได้มาจากการกระทำของพวกทาส ซึ่งต้องกระทำด้วยความเกรงกลัวเเต่ในปัจจุบันในวงการทหารถือเป็นระเบียบในการเคารพต่อรัฐหรือระเบียบในทางปฏิบัติต่อการนั้น ๆ

--- ประพณีนิติกรรมและพิธีต่าง ๆ เมื่อรวมกันได้ก่อให้เกิดเป็น ขนบธรรมเนียมประเพณีของทหารเรือ ประเพณีต่าง ๆ ไม่มีผลบังคับใช้เหมือนกฏหมายก็จริงว แต่ก็เป็นที่ทราบและนิยมปฏิบัติกันมาก ทุกชาติทุกภาษาต่างก็มีประเพณีของตนเองไม่เหมือนกัน เเต่โดยเฉพาะประเพณีที่เกี่ยวกับทหารเรือแล้ว ส่วนใหญ่มีคทวามคล้ายคลึงกัน ถึงเเม้จะมีประเพณีอีกเป็นอันมากที่ยังไม่มีการรับรองอย่างเป็นทางการก็ตาม เเต่ทหารเรือของประเทศต่าง ๆ ก็ไม่ยอมให้ประเพณีเหล่านี้เปลี่ยนเเปลงไป ดังที่ท่านนายพลเรือตรีอางเบอร์ต กลีฟส์ สหรัฐนาวี กล่าวไว้ว่า
"เราผู้สืบต่อมาชั้นหลังอาจจะกล่าวมาไม่ได้ทีเดียวหรือว่าอย่างน้อยที่สุดเราก็จะเป็นผู้ทีมีส่วนจรรโลงความรุ่งเรืองนี้ไว้ " ---

***.........โดยที่ราชนาวีไทยของเราได้ถือเอาแบบอย่างราชนาวีอังกฤษเป็นหลัก.......
***

- คัดมาจาก....หนังสือขนบธรรมเนียมประเพณีทหารเรือ ของ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ -

วันจันทร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2553

เสี้ยวนึกคิด...




**...อำนาจ คือ สิ่งเสพติด...**
**...คนเรามักมองโลกในเเง่ของเรา...เเต่เราไม่เคยมองโลกในเเง่ที่ "โลกมองเรา"...**
**...มนุษย์เป็นสิ่งน่ารังเกียจในสังคมของธรรมชาติ...**
**...เดินทางพันลี้...เริ่มต้นที่ก้าวเเรก...**

**...ท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ที่สุด....คือ....ท้องฟ้าที่อยู่เบื้องหลังเรา...**

**...การให้เกียรติคนทุกชาติ ทุกภาษา....คือ....สิ่งที่ดีที่สุดของคนไทย...**(ปีเตอร์ ริชาร์ด)

**...หากปราศจากความหมายในใจของผู้พบเห้น ธงอะไร ก็เป็นเเค่เศษผ้าบนปลายไม้...**
**...ถ้าไม่รวย ทำตัวรวย จะไม่รวย ถ้าไม่จน ทำตัวจน จะไม่จน...**(รามท่าศาลา...นครศรีธรรมราช)
**...ในสนามรบ....เราทำใจว่าเราต้องสูยเสียเพื่อน
เราตะหนักดีถึงการตายของเพื่อน
เราพร้อมเเละทำใจยอมรับมัน
เพราะมัน คือ ความประสงค์...**

**...หากเบื้องหน้า คือ หุบเหวลึกสุดหยั่ง
หากเบื้องหน้า คือ นทีกว้างสุดตา
หากเบื้องหน้า คือ เปลวเพลิงอันแดงจ้า
หากเบื้องหน้า คือ สัตว์ร้ายยากพรรณา
"ข้าจะก้าวไป เพราะ ใจข้าน่ากลัวเหนืออื่นใด"...**

**...มนุษย์ทั้งหลายเอ๋ย...
อรหันต์ทั้งหลายล้วนมีอาจารย์
เฉกเช่นศิษย์ล้วนมีครู
เเล้วครูเจ้าคือใคร....อยู่ ณ ที่ใด
มนุษย์ทั้งหลายเอ๋ย...
อาจารย์เรา คือ ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ สัมผัส หู ...**

**...ทุกสิ่งในโลกล้วนสัมพันธ์กันหมด สิ่งมีชีวิต ทุกอย่างเกิดมาเพื่อมีหน้าที่ในระบบนิเวศ
ขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดไป ก็กระเทือนไปทั้งระบบ...**

**...อันเพื่อนเเท้เเม้หนึ่งถึงจะน้อย
ดีกว่าร้อยเพื่อนที่คิดริษยา
เกลือก้อนหนึ่งถึงจะน้อยด้อยราคา
ยังมีค่ากว่าน้ำเค็มเต็มทะเล...**

**...หินทั้งเเท่งยังเเสร้งทำเว้าโหว่
เป็นสิงโตได้สนิทไม่ผิดแผน
การสอนคนให้ดีแม้นมีแปลน
ยังยากเเสนกว่าชำแหละแกะสิงโต...**

**...เมื่อมั่งมีมากมายมิตรหมายมอง
เมื่อมั่วหมองมิตรมองเหมือนหมูหมา
เมื่อไม่มีหมดมิตรมุ่งมองมา
เมื่อมอดม้วยหมูหมาไม่มามอง...**